โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเผย รัฐบาลขอความร่วมมือประชาชนและทุกภาคส่วนประหยัดการใช้พลังงานและไฟฟ้า เพื่อช่วยลดผลกระทบจากกรณีแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติยาดานามีปัญหาทรุดตัว
วันนี้ (19 ก.พ.56) เวลา 14.00 น. ณ ศูนย์แถลงข่าวรัฐบาล ตึกนารีสโมสร ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน นายทศพร เสรีรักษ์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้แถลงว่า นายกรัฐมนตรี ได้ปรารภต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ถึงปัญหาภัยแล้ง ซึ่งนายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี ได้มีการดำเนินมาตรการการแก้ไขปัญหาภัยแล้งทั้งในระยะสั้นและระยะยาวแล้ว
พร้อมกันนี้ นายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้แจ้งที่ประชุมฯ รับทราบเกี่ยวกับประเทศไทยอาจประสบปัญหาด้านพลังงานกรณีเมียนมาร์ได้แจ้งหยุดส่งก๊าซธรรมชาติจากแหล่งยาดานา-เยตากุน ระหว่างวันที่ 4- 12 เมษายน เนื่องจากต้องหยุดซ่อมบำรุงเพราะแท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติยาดานามีปัญหาทรุดตัว
สำหรับแหล่งก๊าซธรรมชาติยาดานา สามารถผลิตก๊าซธรรมชาติได้ ประมาณ 650 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ส่วนแหล่งก๊าซธรรมชาติเยตากุน ผลิตก๊าซธรรมชาติได้ 460 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แต่ก๊าซธรรมชาติที่เยตากุนเป็นแหล่งก๊าซธรรมชาติคุณภาพต่ำจึงต้องนำมาผสมกับยาดานา ซึ่งเมื่อก๊าซธรรมชาติยาดานามีปัญหาจึงส่งผลให้ก๊าซหายจากระบบประมาณ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ทั้งนี้ก๊าซธรรมชาติที่หายไปจากยาดานา-เยตากุน นั้น จะส่งผลกระทบต่อโรงไฟฟ้าราชบุรี โรงไฟฟ้าไตรเอ็นเนอร์ยี โรงไฟฟ้าพระนครเหนือ โรงไฟฟ้าพระนครใต้ และโรงไฟฟ้าวังน้อย ซึ่งมีกำลังการผลิต 6,000 เมกะวัตต์ โดยการแก้ปัญหาดังกล่าวจะพยายามนำก๊าซจากฝั่งอ่าวไทยมาใช้ทดแทนซึ่งยังไม่เพียงพอ จึงมีการนำโรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเตา มาผลิตไฟฟ้าในช่วงดังกล่าว คาดจะได้ไฟฟ้าประมาณ 2,000 เมกะวัตต์ นอกจากนี้จะดึงจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำจากต่างประเทศ เช่น จาก สปป.ลาว รวมทั้งในประเทศโดยระบายน้ำลงมาจากเขื่อนเพื่อผลิตไฟฟ้า แต่ยังขาดอยู่ประมาณ 100-1,000 เมกะวัตต์ อย่างไรก็ตามรัฐบาล มีความพยายามเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเต็มที่ พร้อมขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันประหยัดการใช้ไฟฟ้าและพลังงานด้วย เช่น ตั้งค่าอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศให้อยู่ที่ประมาณ 25-26 องศาเซลเซียส มีการตรวจล้างเครื่องปรับอากาศให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ลดการใช้น้ำมัน ส่งเสริมการใช้ก๊าซโซฮอล์ และ NGV เป็นต้น
ทั้งนี้ รัฐบาลได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่าง ๆ ทั้งกระทรวงพลังงาน กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงมหาดไทย ประสานงานกับทุกกระทรวงและหน่วยราชการ ในการช่วยกันประหยัดพลังงานและการใช้ไฟฟ้า โดยได้ตั้งเป้าหมายให้หน่วยงานต่าง ๆ ลดการใช้พลังงาน 10 เปอร์เซ็นต์ และหากหน่วยงานใดมีค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 15 เปอร์เซ็นต์ ให้สำนักงบประมาณดำเนินการปรับลดงบประมาณในปีต่อไป เป็นต้น
-------------------------------
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
วิไลวรรณ/รายงาน
Comments
Post a Comment