นายกรัฐมนตรีเปิดงานท้องถิ่นไทยสร้างวิถี คืนคนดีสู่สังคม
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำรัฐบาลกำหนดนโยบายแก้ไขปัญหาและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วนของชาติ
วันนี้ (19 กุมภาพันธ์ 2556) เวลา 13.30 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในการจัดงานมหกรรม “ท้องถิ่นไทยสร้างวิถี คืนคนดีสู่สังคม” จัดโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ผู้ร่วมงานประกอบด้วย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ปกครองที่ลูกหลานผ่านการบำบัดรักษา มาร่วมงานป็นจำนวนมาก
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ว่า จากการที่รัฐบาลได้กำหนดปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยยึดหลักนิติธรรมในการปราบปราม ลงโทษ ผู้ติด ผู้ค้า และยึดหลักว่าผู้เสพคือผู้ป่วย ที่ต้องได้รับการบำบัดรักษา ให้กลับมาเป็นคนดีของสังคม พร้อมทั้งมีกลไกติดตามช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ดำเนินการอย่างจริงจังในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการบริหารจัดการอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งดำเนินการป้องกันกลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วไปไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งเป็นการรวมพลังจากทุกภาคส่วนเป็นพลังแผ่นดินในการต่อสู้กับยาเสพติด “ภายใต้ยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด”
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดงานฯ ว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายการแก้ไขปัญหาและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วนของชาติ และเป็นวาระของชาติในการแก้ไขปัญหา มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการพลังงานแผ่นดิน เอาชนะยาเสพติดแห่งชาติขึ้น เพื่อทำหน้าที่บูรณาการการทำงานร่วมกัน ทั้งเรื่องของการปราบปราม ป้องกัน และการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ เพื่อไม่ให้ผู้เสพกลับเข้าไปสู่ขบวนการอีก ซึ่งถือว่าลูกหลานของเราที่เป็นอนาคตของประเทศชาติ
รัฐบาลเน้นย้ำเสมอว่าจุดสำคัญที่สุด คือชุมชนและหน่วยงานของภาครัฐและภาคเอกชนที่จะร่วมกันบูรณาการ ในการแก้ปัญหายาเสพติด เช่น การป้องกัน การปราบปราม และการบำบัด โดยเฉพาะการบำบัดเป็นสิ่งที่เราแก้ไขปัญหาที่ต้นทาง การแจ้งข้อมูลเบาะแสต่าง ๆ ผู้เสพเป็นเยาวชนหรือเป็นลูกหลานของเรา ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี ในการนำเยาวชนเข้าสู่ขบวนการบำบัด ซึ่งมีจำนวนกว่า 500,000 ราย และเป้าหมายในปีนี้ คาดว่าจำนวนผู้เสพจะลดลง
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึง การจัดงานในวันนี้ว่า ถือเป็นการต้อนรับผู้ที่ผ่านการบำบัดกลับเข้าไปสู่ชุมชนและท้องถิ่น และขอให้ทุกคนร่วมกัน ทลายกำแพงที่กั้นระหว่างชุมชนกับคนที่พลาดพลั้ง ด้วยคำว่า “พลังใจและการให้โอกาส” หรือ “การให้อภัย” เพื่อให้เขาสามารถกลับเข้ามายืนอยู่ในสังคมได้ และประกอบอาชีพใหม่ที่สุจริต เป็นคนดีที่ทำคุณประโยชน์ให้สังคม ชุมชนและครอบครัว โดยรัฐบาลและทุกภาคส่วนได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดมาปฏิบัติด้วยความจงรักภักดี เพื่อสนองพระราชปณิธาน และพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรตลอดระยะเวลาอันยาวนาน เพื่อสิ่งที่เป็นมงคล ในการทำความดีเพื่อความเติบโตของประเทศชาติต่อไป
...............................................................
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
วีรพงษ์ รายงาน
นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำรัฐบาลกำหนดนโยบายแก้ไขปัญหาและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วนของชาติ
วันนี้ (19 กุมภาพันธ์ 2556) เวลา 13.30 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี อำเภอปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้เป็นประธานในการจัดงานมหกรรม “ท้องถิ่นไทยสร้างวิถี คืนคนดีสู่สังคม” จัดโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย ผู้ร่วมงานประกอบด้วย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้บริหารจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และผู้ปกครองที่ลูกหลานผ่านการบำบัดรักษา มาร่วมงานป็นจำนวนมาก
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้ว่า จากการที่รัฐบาลได้กำหนดปัญหายาเสพติดเป็นวาระแห่งชาติ โดยยึดหลักนิติธรรมในการปราบปราม ลงโทษ ผู้ติด ผู้ค้า และยึดหลักว่าผู้เสพคือผู้ป่วย ที่ต้องได้รับการบำบัดรักษา ให้กลับมาเป็นคนดีของสังคม พร้อมทั้งมีกลไกติดตามช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ดำเนินการอย่างจริงจังในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยการบริหารจัดการอย่างบูรณาการและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งดำเนินการป้องกันกลุ่มเสี่ยงและประชาชนทั่วไปไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด ซึ่งเป็นการรวมพลังจากทุกภาคส่วนเป็นพลังแผ่นดินในการต่อสู้กับยาเสพติด “ภายใต้ยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด”
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวเปิดงานฯ ว่า รัฐบาลได้กำหนดนโยบายการแก้ไขปัญหาและป้องกันปัญหายาเสพติดเป็นนโยบายเร่งด่วนของชาติ และเป็นวาระของชาติในการแก้ไขปัญหา มีการจัดตั้งศูนย์อำนวยการพลังงานแผ่นดิน เอาชนะยาเสพติดแห่งชาติขึ้น เพื่อทำหน้าที่บูรณาการการทำงานร่วมกัน ทั้งเรื่องของการปราบปราม ป้องกัน และการบำบัดฟื้นฟูผู้เสพ เพื่อไม่ให้ผู้เสพกลับเข้าไปสู่ขบวนการอีก ซึ่งถือว่าลูกหลานของเราที่เป็นอนาคตของประเทศชาติ
รัฐบาลเน้นย้ำเสมอว่าจุดสำคัญที่สุด คือชุมชนและหน่วยงานของภาครัฐและภาคเอกชนที่จะร่วมกันบูรณาการ ในการแก้ปัญหายาเสพติด เช่น การป้องกัน การปราบปราม และการบำบัด โดยเฉพาะการบำบัดเป็นสิ่งที่เราแก้ไขปัญหาที่ต้นทาง การแจ้งข้อมูลเบาะแสต่าง ๆ ผู้เสพเป็นเยาวชนหรือเป็นลูกหลานของเรา ที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเป็นอย่างดี ในการนำเยาวชนเข้าสู่ขบวนการบำบัด ซึ่งมีจำนวนกว่า 500,000 ราย และเป้าหมายในปีนี้ คาดว่าจำนวนผู้เสพจะลดลง
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึง การจัดงานในวันนี้ว่า ถือเป็นการต้อนรับผู้ที่ผ่านการบำบัดกลับเข้าไปสู่ชุมชนและท้องถิ่น และขอให้ทุกคนร่วมกัน ทลายกำแพงที่กั้นระหว่างชุมชนกับคนที่พลาดพลั้ง ด้วยคำว่า “พลังใจและการให้โอกาส” หรือ “การให้อภัย” เพื่อให้เขาสามารถกลับเข้ามายืนอยู่ในสังคมได้ และประกอบอาชีพใหม่ที่สุจริต เป็นคนดีที่ทำคุณประโยชน์ให้สังคม ชุมชนและครอบครัว โดยรัฐบาลและทุกภาคส่วนได้น้อมนำพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ที่เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดมาปฏิบัติด้วยความจงรักภักดี เพื่อสนองพระราชปณิธาน และพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงมีต่อพสกนิกรตลอดระยะเวลาอันยาวนาน เพื่อสิ่งที่เป็นมงคล ในการทำความดีเพื่อความเติบโตของประเทศชาติต่อไป
...............................................................
กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก
วีรพงษ์ รายงาน
Comments
Post a Comment