นายกรัฐมนตรีเตรียมร่วมยินดีผู้นำสตรีเกาหลี พร้อมเยือนฮ่องกงเปิดแผนยุทธศาสตร์ดึงดูดการลงทุนประเทศไทย
นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐเกาหลีและเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อเข้าร่วมในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีตามคำเชิญของมาดามปัก กึน-ฮเย ก่อนเดินทางต่อไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ตามคำเชิญของผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง พร้อมใช้โอกาสนี้เปิดแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ประเทศ เพื่อดึงดูดนักลงทุนและย้ำความพร้อมของไทยที่จะเป็นจุดเชื่อมในภูมิภาค (connectivity hub)
การเยือนสาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 24 – 25 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นการตอบรับคำเชิญของมาดามปัก กึน-ฮเย เพื่อเป็นแขกในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญอีกครั้งที่แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในบทบาทของผู้นำสตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสนี้แสดงความยินดีกับผู้นำสตรีคนแรกของเกาหลี พร้อมร่วมส่งเสริมและพัฒนาบทบาทสตรีในภูมิภาคในฐานะผู้นำสตรีด้วยกัน และย้ำถึงความพร้อมของไทยที่จะร่วมมือกับเกาหลีเพื่อประโยชน์ร่วมกันตามที่ได้ริเริ่มในช่วงของรัฐบาลประธานาธิบดีอี มยอง-บัก ที่ได้ยกระดับเป็น”หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ซึ่งมีการตั้งเป้ามูลค่าการค้าระหว่างกันให้ได้ 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอีก 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ปีนี้ ยังเป็นปีที่ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สาธารณรัฐเกาหลีครบรอบ 55 ปี อีกด้วย โดยนายกรัฐมนตรีจะถือโอกาสนี้ เชิญ มาดามปัก กึน-ฮเย มาร่วมการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤษภาคม 2556 เนื่องจากสาธารณรัฐเกาหลี นับเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งล่าสุด บริษัท K Water สาธารณรัฐเกาหลี เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือกกรอบแนวคิดเพื่อออกแบบก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศ
นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการเดินทางเยือนสาธารณรัฐเกาหลีและเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ระหว่างวันที่ 24-26 กุมภาพันธ์ 2556 เพื่อเข้าร่วมในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีตามคำเชิญของมาดามปัก กึน-ฮเย ก่อนเดินทางต่อไปยังเขตบริหารพิเศษฮ่องกง ตามคำเชิญของผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง พร้อมใช้โอกาสนี้เปิดแผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ภายใต้แผนยุทธศาสตร์ประเทศ เพื่อดึงดูดนักลงทุนและย้ำความพร้อมของไทยที่จะเป็นจุดเชื่อมในภูมิภาค (connectivity hub)
การเยือนสาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ 24 – 25 กุมภาพันธ์ 2556 เป็นการตอบรับคำเชิญของมาดามปัก กึน-ฮเย เพื่อเป็นแขกในพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี ซึ่งถือว่าเป็นเหตุการณ์สำคัญอีกครั้งที่แสดงให้เห็นถึงการยอมรับในบทบาทของผู้นำสตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะใช้โอกาสนี้แสดงความยินดีกับผู้นำสตรีคนแรกของเกาหลี พร้อมร่วมส่งเสริมและพัฒนาบทบาทสตรีในภูมิภาคในฐานะผู้นำสตรีด้วยกัน และย้ำถึงความพร้อมของไทยที่จะร่วมมือกับเกาหลีเพื่อประโยชน์ร่วมกันตามที่ได้ริเริ่มในช่วงของรัฐบาลประธานาธิบดีอี มยอง-บัก ที่ได้ยกระดับเป็น”หุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์” ซึ่งมีการตั้งเป้ามูลค่าการค้าระหว่างกันให้ได้ 13,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในอีก 5 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ ปีนี้ ยังเป็นปีที่ความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สาธารณรัฐเกาหลีครบรอบ 55 ปี อีกด้วย โดยนายกรัฐมนตรีจะถือโอกาสนี้ เชิญ มาดามปัก กึน-ฮเย มาร่วมการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤษภาคม 2556 เนื่องจากสาธารณรัฐเกาหลี นับเป็นประเทศที่ประสบความสำเร็จในการบริหารจัดการน้ำได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งล่าสุด บริษัท K Water สาธารณรัฐเกาหลี เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทที่ผ่านการคัดเลือกจากคณะกรรมการคัดเลือกกรอบแนวคิดเพื่อออกแบบก่อสร้างระบบบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศ
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังมีกำหนดการที่จะพบปะกับนายอี มยอง-บัก ประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลี ณ ทำเนียบประธานาธิบดี ซึ่งเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญต่อการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศตลอดระยะที่ผ่านมา เพื่อขอบคุณและอำลาการพ้นจากตำแหน่ง รวมทั้ง ร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำที่นายคัง ชาง ฮี ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่นายกรัฐมนตรี ในวันแรกอีกด้ว
จากนั้น นายกรัฐมนตรีจะเดินทางเยือนฮ่องกงอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 25-26 กุมภาพันธ์ 2556 ตามคำเชิญของนายเหลียง จุ้นอิง ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง โดยจะใช้โอกาสนี้ ย้ำถึงโอกาสการลงทุนภายใต้แผนยุทธศาสตร์ประเทศไทย เพื่อดึงดูดนักลงทุนชั้นนำและนักการเงินต่างชาติจากฮ่องกง ซึ่งถือเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย และความพร้อมของไทยที่จะเป็นจุดเชื่อมในภูมิภาค (Connectivity Hub) ตามแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และเชื่อมต่อกับฮ่องกง เนื่องจากฮ่องกงมีท่าอากาศยานและท่าเรือน้ำลึกขนาดใหญ่ และเป็นจุดขนส่งสินค้าที่สำคัญที่มีปริมาณการขนส่งสินค้าเป็นอันดับต้นของโลก
ในการเยือนเขตบริหารพิเศษฮ่องกง นายกรัฐมนตรีมีภารกิจสำคัญ ได้แก่
-การพบปะกับผู้บริหารระดับสูงของภาคธนาคารและการลงทุนที่สำคัญของฮ่องกง
- การพบกับตัวแทนบริษัทท่องเที่ยวชั้นนำของฮ่องกง เพื่อย้ำศักยภาพการท่องเที่ยวในประเทศไทยและจูงใจนักท่องเที่ยวชาวฮ่องกง
- การพบหารือกับนายเหลียง จุ้นอิง ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง ซึ่งเพิ่งรับตำแหน่งในปีที่ผ่านมา เพื่อสร้างความคุ้นเคยและสานต่อความร่วมมือกับรัฐบาลฮ่องกงจากสมัย นายโดนัลด์ จัง โดยไทยจะยืนยันความร่วมมือระหว่างกัน ความต่อเนื่องของนโยบายและการส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างกัน
นอกจากนี้ กระทรวงการคลัง และ BOI ได้ร่วมกันจัดกิจกรรมคู่ขนานเพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ประเทศไทย ภายใต้ชื่อ “Hong Kong Roadshow “Thailand’s Strategies: A Road Map for Real Opportunities” ซึ่งประกอบไปด้วย การกล่าวสุนทรพจน์ถึงโอกาสของไทยภายใต้แผนยุทธศาสตร์ประเทศ โดยนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง การจัดสัมมนาเพื่อส่งเสริมการลงทุน ตลอดจน การพบปะระหว่างผู้บริหารระดับสูงด้านการเงินการคลังของไทยกับนักลงทุนต่างชาติที่สำคัญในฮ่องกง ในครั้งนี้ด้วย
*******************************
กลุ่มวิเทศสัมพันธ์ สำนักโฆษก
Comments
Post a Comment