ายกรัฐมนตรี ปราศรัยเนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2556

นายกรัฐมนตรี ปราศรัยเนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2556

นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปราศรัยเนื่องในวันสตรีสากล ประจำปี 2556 วันที่ 8 มีนาคม 2556 ออกอากาศทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย

พี่น้องสตรีและพี่น้องชาวไทยที่เคารพรักทั้งหลาย


เนื่องในโอกาสวันสตรีสากล ประจำปี 2556 ที่เวียนมาบรรจบครบรอบปีอีกวาระหนึ่งในวันที่ 8 มีนาคม ศกนี้  ดิฉันขอส่งความระลึกถึงและความปรารถนาดีมายังพี่น้องสตรีไทย และผู้ที่ปฏิบัติงานด้านสตรี พร้อมทั้งขอเชิญชวนทุกคนร่วมแสดงความชื่นชมกับความก้าวหน้าของการพัฒนางานด้านกิจการสตรีทั่วโลกที่มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยขณะนี้มีหลายประเทศที่สตรีมีบทบาทสำคัญทางการบริหาร เป็นผู้นำภาคธุรกิจ ผู้บริหารองค์กรระหว่างประเทศ  และเป็นผู้นำประเทศ อาทิ นางปาร์ค กึน ฮเย  ที่ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีหญิงคนแรกของเกาหลีใต้ เป็นต้น

ส่วนในประเทศไทย แม้ว่าจะมีสตรีอยู่มากกว่าครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด แต่ความเหลื่อมล้ำในเชิงโอกาสยังคงพบเห็นอยู่บ้าง สตรีจำนวนไม่น้อยยังเป็นเหยื่อของความรุนแรงในหลายรูปแบบ ถูกล่อลวงค้ามนุษย์  ในขณะที่สัดส่วนการขึ้นสู่ตำแหน่งของผู้บริหารระดับสูงยังมีอยู่จำกัด รัฐบาลจึงกำหนดให้การสร้างความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันทางสังคมเป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศ เพราะความเสมอภาคนั้น นอกจากจะเป็นเป้าหมายในการพัฒนาแล้ว  ยังเป็นเงื่อนไขสำคัญของการลดความยากจน เพื่อนำไปสู่ความยั่งยืน และการพัฒนาประชากรสตรีก็เป็นภารกิจที่สำคัญสำหรับการสร้างรากฐานการพัฒนาประเทศในภาพรวมด้วย



ซึ่งกว่า 1 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลได้ผลักดันนโยบายเพื่อสตรีอย่างจริงจัง โดยมีกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีเป็นกลไกหนึ่งที่จะขับเคลื่อนการพัฒนาสตรีไปสู่รูปธรรมที่ชัดเจน  ทั้งให้โอกาสในการสร้างงาน สร้างรายได้ สร้างชีวิตที่มั่นคง พร้อมๆ ไปกับพัฒนาศูนย์บริการแบบครบวงจรเพื่อส่งเสริมความรู้และความเข้าใจในสิทธิตามกฎหมาย

ให้ความช่วยเหลือสตรีและผู้ด้อยโอกาสที่ถูกกระทำความรุนแรง รวมทั้งพัฒนาศักยภาพความเป็นผู้นำแก่สตรี เพื่อให้มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ สังคม และการเมืองมากขึ้น



รัฐบาลมีความเชื่อมั่นว่า แนวทางต่างๆ ดังกล่าว จะทำให้สตรีทุกกลุ่มได้รับการดูแลอย่างทั่วถึง มีโอกาสและสามารถเข้าถึงโอกาสได้อย่างเต็มศักยภาพ ทำให้การเลือกปฏิบัติต่อสตรีได้รับการขจัดให้หมดไป



ดิฉันหวังว่า ทุกภาคส่วนในสังคมจะร่วมกันปรับเปลี่ยนเจตคติให้สังคมไทยเป็นสังคมที่เคารพในศักดิ์ศรีและคุณค่าความเป็นมนุษย์  ในขณะที่สตรีไทยก็ต้องมีความเชื่อมั่นว่า สตรีมีศักยภาพทุกด้านทัดเทียมกับบุรุษ โดยรัฐบาลจะร่วมทำงานกับทุกภาคส่วนเพื่อขับเคลื่อนให้เกิดความเสมอภาคและสร้างสรรค์ให้พลังสตรีเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศสืบต่อไป



สวัสดีค่ะ

-------------------------------

กลุ่มยุทธศาสตร์และแผนการประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก


Comments